คุณสาธิต กรีกุล

นอกจากจะมีเสียงที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว ว่าจะเป็นเสียงบรรยายหรือเป็นผู้ประกาศข่าว ถ้าจะพูดถึงผู้ประกาศสายกีฬาแล้วล่ะก็ คุณสาธิต กรีกุล จะต้องเป็นหนึ่งในคนที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน โดยเริ่มจากชื่นชอบการเล่นกีฬาและได้เป็นนักฟุตบอลในรั้วโรงเรียนเซนต์คาเบรียลสู่เส้นทางการเป็นผู้สื่อข่าวสายกีฬาอย่างทุกวันนี้

เพราะชอบเล่นกีฬาตั้งแต่เด็ก

สวัสดีครับผมสาธิต กรีกุล หรือที่หลายคนเรียกผมว่า บิ๊กจ๊ะผมเรียนอยู่ที่เซนต์คาเบรียลเป็นเวลา 12 ปีเต็ม ตั้งแต่ชั้น .1-..5 เพราะว่าผมชอบกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ และได้เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนเช่นเดียวกันกับคุณพ่อก็ถือเป็นความภูมิใจเรื่องหนึ่ง ทำให้หลังจากเรียนจบแล้วนั้นผมได้มาเริ่มต้นสมัครงานเป็นนักข่าวที่บริษัทสยามกีฬา สยามสปอร์ต และเลือกเส้นทางเป็นผู้สื่อข่าวมาจนถึงปัจจุบัน ที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นนักข่าวสายกีฬาอยู่ทางช่อง 3 เป็นทั้งผู้สื่อข่าว เป็นนักพากย์กีฬา รวมถึงเป็นที่ปรึกษาของบริษัท สยามปอร์ต และได้ทำงานด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวกับแวดวงกีฬาทั้งหมด

มีคุณพ่อเป็นแบบอย่างและความภูมิใจในโรงเรียน

ความประทับใจที่มีต่อโรงเรียนในตอนเด็กนั้นอาจจะยังไม่ทราบเท่าไร แต่เมื่อเติบโตขึ้นได้รู้ว่าคุณพ่อเป็นศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล และผมเองมีพี่น้อง 7 คน โดย 4 คนเป็นผู้ชายทุกคนเรียนจบเซนต์คาเบรียลทั้งหมดเหมือนคุณพ่อ ซึ่งสำหรับผมแล้วท่านเสมือนเป็นไอดอลของเราตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังได้เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนเหมือนท่านด้วยก็ถือเป็นความภูมิใจ

นอกเหนือจากความภูมิใจที่ตั้งแต่เด็กเราทราบดีอยู่แล้วว่า โรงเรียนเซนต์คาเบรียลเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตอนนั้นเป็นความภูมิใจว่าเป็น 12 ปีเต็มที่ได้อยู่เซนต์คาเบรียล เกิดเป็นความผูกพันตั้งแต่ตอนที่เรียนสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน เวลามีคนมาถามว่าเรียนจบจากที่ไหน เมื่อเราได้ Feed Back กลับมาว่า จบจากเซนต์คาเบรียลหรอ ผมคิดว่าทุกคนที่เป็นศิษย์เก่าคงรู้สึกเหมือนกัน คือโรงเรียนของเราเป็นที่ยอมรับยิ่งทำให้รู้สึกโชคดีที่ได้มาเรียนเซนต์คาเบรียล

ความประทับใจที่มีต่อบราเดอร์และมาสเตอร์

จริงๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นบราเดอร์หรือมาสเตอร์ท่านไหนผมก็ยังระลึกถึงทุกท่านนะครับ แม้ว่าตอนเด็กจะรู้สึกว่าท่านดุ ท่านเข้มงวดในเรื่องวินัย เรื่องวิชาความรู้ ทั้งหมดเพราะอยากให้เราเก่งให้เราดี อย่างท่านบราเดอร์มาร์ตินซึ่งตอนนั้นเป็นอธิการของโรงเรียน และท่านเป็นเพื่อนชั้นเดียวกันกับคุณพ่อ ยังจำได้ว่าท่านเคยเดินมาทักแล้วกอดคอพร้อมพูดว่า ถ้าท่านมีลูกป่านนี้ลูกท่านคงจะตัวเท่าเราแล้วเหมือนกัน ก็เป็นความรักความอบอุ่นใจที่ท่านมีให้ หรือจะเป็นท่านบราเดอร์มีศักดิ์ ท่านเคยสอนที่โรงเรียนในชั้น .5 หลังจากนั้นท่านก็ย้ายไปสอนที่อื่น ก่อนจะกลับมาสอนผมอีกครั้งตอน ..5 วิชาแรกที่ท่านมาสอน ผมนั่งอยู่หลังห้องตามสไตล์เด็กที่ขยันเล่นกีฬามากกว่าเรียนหนังสือ คุยเล่นกับเพื่อน ท่านก็พูดขึ้นมาว่าสาธิต หยุดคุยได้แล้วผมตกใจที่ท่านยังจำผมได้ เพราะเป็นเวลา 7 ปีผ่านไปตั้งแต่เด็กๆ แสดงให้เห็นว่าท่านมีความใส่ใจในลูกศิษย์ ตลอดจนท่านมาสเตอร์ทองหล่อ แม้ว่าเพื่อนของผมจะเป็นลูกชายของมาสเตอร์ แต่ท่านไม่เคยเข้าข้างลูก อาจจะทำโทษหนักกว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป อีกท่านหนึ่งคือมาสเตอร์สุภาพ ท่านเองก็ชอบฟุตบอลด้วย โดยท่านเล่นในตำแหน่งปีกตัวจี๊ดของโรงเรียน และยังมีมาสเตอร์อีกมากมายที่ผมคงกล่าวถึงได้ไม่ครบ

คำว่า อยู่ยั้งยืนยง ต้องอยู่แบบทรงคุณค่า

เส้นทางการทำงานและที่มาของบิ๊กจ๊ะ

อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นคือชื่นชอบกีฬา หลังจากเรียนจบจึงไปสมัครงานที่สยามสปอร์ต ทำหนังสือพิมพ์สยามกีฬา แต่ก่อนหน้านั้นเป็นนิตยสารสตาร์ซอคเกอร์ ซึ่งผมอ่านหนังสือฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนที่อยู่เซนต์คาเบรียล เพราะสมัยนั้นยังไม่มีมือถือหรือ Social การที่จะติดตามข่าวสาร หรือข้อมูลต้องอ่านจากหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร อ่านทุกวันจนคิดว่าเรามีความรู้ที่สามารถไปเขียนหรือแปลเองได้ 0จึงไปสมัครเป็นนักข่าวสายกีฬาเลย บางคนอาจจะคิดว่าผมเรียนจบนิเทศศาสตร์ด้านการสื่อสาร วารสาร จึงมาทำงานด้านนี้ แต่จริงๆ ผมเรียนมาทางด้านบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ก็เริ่มต้นเขียนต้นฉบับตั้งแต่นั้นมา หลังจากนั้นผมก็ทำงานอยู่ในสายงานนี้มาโดยตลอด

สำหรับนามปากกา บิ๊กจ๊ะ ในยุคนั้นเมืองไทยยังไม่นิยมเรียกคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงว่าบิ๊กนำหน้า แต่ตัวผมเองเมื่อเข้ามาทำงานด้านสื่อสารมวลชนก็ต้องมีนามปากกา ผมเองชื่อเล่นว่า จ๊ะ อยู่แล้ว ถามว่าทำไมต้องขึ้นต้นด้วยคำว่าบิ๊ก เพราะจากการที่เราอ่านหนังสือต่างประเทศมาตั้งแต่เด็ก คนที่เป็นนักฟุตบอลหรือนักกีฬาดัง โค้ชหรือผู้จัดการที่เก่งๆ จะใช้คำว่าบิ๊กหรือซุปเปอร์นำหน้า อย่างกีฬาฟุตบอลอังกฤษในยุคนั้นก็จะมีบิ๊กโจ บิ๊กรอย ฮอดจ์สันที่เป็นผู้จัดการทีมดังๆ  จึงเป็นที่มาของนามปากกาบิ๊กจ๊ะ

อีกทั้งยังมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ นั่นก็เพราะได้รับการอบรมสั่งสอน ซึ่งเราคนจะเป็นคนดีหรือไม่ดีนั้นต้องเริ่มปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆ เช่นคำกล่าวที่ว่าไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก คือดัดให้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทั้งด้านการเรียนการศึกษา การเป็นคนดี มีความเป็นมนุษย์ หรือการมีทัศนคติที่ดี เมื่อเราเติบโตขึ้นก็สามารถก้าวเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องได้ จากจุดเริ่มต้นทั้งหมดผมกล้าพูดเลยว่าตลอด 12 ปีในรั้วเซนต์คาเบรียล ทำให้ผมเดินอยู่ในทางที่ถูกต้อง ตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ ก็เพราะโรงเรียนเซนต์คาเบรียลปลูกฝังและปูพื้นฐาน จนทำให้ผมมีทุกวันนี้ได้ครับ

ในโอกาสครบรอบ 100 ปี

อยากให้ทุกคนภูมิใจเช่นเดียวกันกับผมที่ได้มีโอกาสมาเรียนที่เซนต์คาเบรียล ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับ มาจนถึงในปีนี้ที่ครบรอบ 100 ปี ซึ่งอาจจะมีโรงเรียนอื่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่านี้ แต่ในความเป็นเซนต์คาเบรียล 100 ปี เป็น 1 ศตวรรษที่สะท้อนให้เห็นถึงความเก่าแก่และอยู่ยั้งยืนยง แต่เราจะต้องอยู่ยั้งยืนยงอย่างมีคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นบราเดอร์ มาสเตอร์ รวมไปถึงบุคลากรทุกท่าน นักเรียนปัจจุบัน ศิษย์เก่าที่จะต้องต่อยอดและรักษาชื่อเสียงของโรงเรียนให้เป็นที่ยอมรับ น่ายกย่องเชิดชู อีกทั้งยังจะต้องเป็นทั้งคนดีและคนเก่ง ทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความเป็นศิษย์เซนต์คาเบรียล ที่สร้างผลงานให้กับตัวเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ เพื่อเป็นการสร้างคุณค่าและชื่อเสียงให้กับโรงเรียนต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าวันหนึ่งเราจากโลกนี้ไปแล้ว แต่หวังว่าชื่อเสียงของโรงเรียนจะคงอยู่ตลอดกาลครับ