พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร

ก่อนอื่นผมต้องขอบอกเลยนะครับว่าผมเป็นผู้โชคดีที่ได้เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ซึ่งในขณะนั้นก็เหมือนกับในปัจจุบันที่ยังมีเด็กอีกมากมายอยากเข้าเรียนที่เซนต์คาเบรียลแล้วพลาดโอกาส แต่ผมถือเป็นหนึ่งคนที่ได้รับโอกาสเข้ามาศึกษาในรั้วของเซนต์คาเบรียล อีกทั้งยังต้องขอขอบคุณสมาคมศิษย์เซนต์คาเบรียลที่ได้ให้โอกาสมาพูดคุยกับศิษย์เก่าและนักเรียนรุ่นหลังๆพล..อุดมเดช สีตะบุตร เริ่มต้นกล่าวทักทายก่อนจะเล่าถึงเรื่องราวในรั้วเซนต์คาเบรียลให้เราฟังเพิ่มเติม

พื้นฐานที่ได้จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล

ตัวผมเองได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งผมต้องบอกเลยนะครับว่าถ้าไม่ได้มาเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ผมคงไม่มีโอกาสที่จะมีวิชาความรู้ไปสอบแข่งขันได้ เนื่องจากข้อสอบค่อนข้างยากมาก และนักเรียนที่สอบส่วนใหญ่ที่ได้เข้าโรงเรียนเตรียมทหารจะต้องสอบประมาณ 2-3 ปี ผมเองตอนเรียนที่เซนต์คาเบรียลมีผลการเรียนอยู่ในระดับปานกลางแต่สามารถสอบเข้าได้ตั้งแต่ปีแรก

หลังจากเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร 2 ปี ผมได้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเป็นเวลาอีก 5 ปี ในการศึกษาจากทั้งสองโรงเรียนแน่นอนว่าย่อมได้รับการกล่อมเกลาในเรื่องต่างๆ แต่ผมก้ยังยืนยันว่าพื้นฐานที่ได้จากเซนต์คาเบรียลไม่ว่าจะความรู้ ทักษะ และสิ่งที่โรงเรียนปลูกฝังส่งผลให้ผมมีลักษณะของคนที่สามารถประกอบวิชาชีพได้เป็นอย่างดี จนผมได้รับคัดเลือกให้เป็นนักเรียนผู้บังคับบัญชาในชั้นปีสุดท้าย เป็นตำแหน่งหัวหน้านักเรียนนายร้อย ถือเป็นความภูมิใจทางทหารครั้งที่ 1 ต้องดูแลนักเรียนนายร้อย 5 ชั้น จำนวนกว่า 2,000 คน

ความภูมิใจของการทำงานในตำแหน่งสำคัญต่างๆ

ผมเริ่มต้นบรรจุรับราชการที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ และมีตำแหน่งเติบโตโดยลำดับ โดยผมจะขอเล่าถึงความภูมิใจ ซึ่งเคยได้รับโอกาสในการแก้ปัญหาทางทหารเมื่อเป็นระดับร้อยเอก เป็นผู้บังคับกองร้อย ตอนนั้นมีกองกำลังของต่างชาติได้รุกล้ำเข้ามาปิดล้อม กองกำลังของเรามีอยู่จำนวนหนึ่งที่ชายแดนด้านตะวันออกคือ อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป้นพื้นที่เนินเขา เรียกว่าพนมปัก เมื่อได้รับภารกิจให้ผลักดันและช่วยเหลือกำลังพลที่ถูกปิดล้อมก็สามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จ ทั้งยังสามารถสังหารและจับเชลยกองกำลังที่เข้ามารุกราน และยึดยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ ทำให้ได้รับการพิจารณาเข้ารับพระราชทานเครื่องรางอิสริยาภรณ์ อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญรามมาลา จากพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สำหรับตำแหน่งการทำงานที่สำคัญในระดับกลางได้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นหน่วยที่ผมภาคภูมิใจ ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ได้เป็นเลขาธิการกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งได้เริ่มเป็นนายพลในตำแหน่งแรก เป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 เป็นผู้บัญชาการทหารราบที่ 9 เป็นรองแม่ทัพและแม่ทัพภาคที่ 1 ถือว่าสูงสุด พลโท เป็นตำแหน่งที่กุมกำลังรบสูงสุดครับ หลังจากนั้นได้ตำแหน่งระดับบริหารชั้นสูง โดยดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบกในตำแหน่งพลเอก และได้เป็นเสนาธิการทหารบก รองผู้บัญชาการทหารบก และเป็นผู้บัญชาการทหารบกในตำแหน่งสุดท้ายเมื่อเดือนตุลาคม 2557

ถือว่าประสบความสำเร็จทางการทหารที่สูงสุดแล้วครับ ส่วนทางการเมืองได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้เมื่อย้อนกลับไปจะเห็นว่าเป็นพื้นฐานที่ได้จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

อยากให้ศิษย์เก่าทุกคนดำเนินชีวิตตามเนื้อหาของเพลงโรงเรียน

ความประทับใจที่ไม่ลืมเลือน

ในเรื่องของการศึกษาที่คุณครู มาสเตอร์ได้เน้นเป็นพิเศษ มีความกดดันมากในสมัยนั้น ท่านให้การบ้านเยอะตั้งแต่เด็ก และต้องทำให้เสร็จ บางครั้งได้นอนตอน 4-5 ทุ่ม ไม่ได้ไปเที่ยวเล่นหรือพักผ่อนหย่อนใจมากนัก ถึงขนาดบางวันนั่งน้ำตาซึมอยู่คนเดียว เพราะทำการบ้านไม่เสร็จ และรู้ว่าวันรุ่งขึ้นจะโดนทำโทษ ซึ่งถือเป็นการปลูกฝังให้เรารับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับ เรื่องระเบียบวินัย ที่ต้องทำให้เสร็จ มีความถูกต้อง ทันเวลา

อีกทั้งเด็กเซนต์คาเบรียลยังโชคดีที่ได้ใช้ตำราเรียนภาษาอังกฤษที่สำคัญมาสอน อย่างวิชาคณิตศาสตร์ที่เป็นปกแข็งเล่มสีแดง ซึ่งกว่าจะได้คำนวณต้องทำความเข้าใจกับโจทย์คำถามให้ได้เสียก่อนถึงจะสามารถหาคำตอบได้ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นพื้นฐานที่ดีของนักเรียนเซนต์คาเบรียลในเรื่องของภาษาอังกฤษ

นอกจากนั้นยังได้รับการอบรมขัดเกลาให้เป็นคนดีของสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก สอนให้มีจริยธรรม เช่น เรื่องการจัดให้นักเรียนทำความสะอาดโรงเรียนเป็นรอบสัปดาห์ของชั้นต่างๆ เพื่อให้เข้าใจความหมายของการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ตลอดจนเรื่องกีฬาที่ไม่ด้อยไปกว่าใครทั้งกีฬาภายในและภายนอก สิ่งเหล่านี้เสริมสร้างให้เรามีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะ รวมไปถึงกิจกรรมในวันพิเศาอย่างวันครู วันสำคัญทางศาสนาที่บ่มเพาะให้เรามีขริยธรรม คุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งหมดรวมเป็นความประทับใจของผมทั้งด่านวิชาการ และการเสริมสร้างลักษณะการเป็นคนดีของสังคม

อยากเห็นโรงเรียนมีความก้าวหน้า มั่นคง

เชื่อศิษย์เก่าทุกคนคงอยากเห็นโรงเรียนมีความเจริญก้าวหน้า มีความมั่นคง ในส่วนนี้คงจะเป็นหน้าที่ของบุคลากรในโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ซึ่งก็คือครู อาจารย์ ว่าจะทำอย่างไรที่นำทางเรื่องต่างๆ เหล่านี้ให้นักเรียนในปัจจุบันซึมซับ และจบออกไปจากรั้วโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ให้มีความรู้และเป้นคนดีของสังคมต่อไป สำหรับศิษย์เก่านั้นอยากให้นึกถึงความเป็นเซนต์คาเบรียลที่จะต้องมีส่วนร่วมในการโอบอุ้มสังคม ซึ่งบางเรื่องอาจจะดีแล้ว แต่ถ้าบางอย่างยังไม่ดี ก็เป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะช่วยกันจรรโลงให้ประเทศชาติของเราเจริญต่อไปได้ อีกทั้งยังฝากเพิ่มเตมในส่วนของเพลงประจำโรงเรียน ซึ่งมีเนื้อหาที่ดีมาก ถ้าศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่าทุกคนได้ทำตามเนื้อหาของเพลงนี้ รับรองว่าท่านจะเป็นคนที่สมบูรณ์และทำประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างแน่นอน