คุณเสรี จินตนเสรี

ในชีวิตของคนเรานั้นล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย เช่นเดียวกันกับคุณเสรี จินตนเสรี ที่จะมาถ่ายทอดมุมมองการทำงานกับบทบาทอดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และรองผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลอดจนเรื่องราวของการคว้าแชมป์โลกล่าสุดจากการแข่งขันแบดมินตันอาวุโส เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา

ผมเข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลตั้งแต่ชั้น .1-6 และรู้สึกขอบคุณโรงเรียนเป็นอย่างยิ่งที่ได้อบรมและปูพื้นฐานทางการศึกษาให้ผมเติบโตมาเป็นบุคลากรที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคม ถ้าย้อนกลับไปช่วงที่เรียนอยู่เซนต์คาเบรียลนั้นผมไม่ได้เป็นเด็กเรียนเก่ง รักแต่จะเล่นกีฬามากกว่า แต่สิ่งที่บราเดอร์และมาสเตอร์สอนในห้องเรียนนั้นผมก็ได้ซึมซับมาโดยไม่รู้ตัวเหมือนกับประโยคที่บอกว่า You don’t listen you hear it, You don’t look you see it. ซึ่งความรู้ที่ได้นั้นทำให้ผมสามารถนำไปต่อยอดในการศึกษาต่อ ประกอบวิชาชีพ และดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี

หลังจากเรียนจบจากเซนต์คาเบรียลคุณเสรีได้ศึกษาต่อด้านนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถึงแม้ว่าตอนที่เรียนอยู่เซนต์คาเบรียลผมจะไม่ค่อยสนใจเรียนมากนัก แต่ด้วยความมุมานะและตั้งใจทำให้ผมเรียนจบนิติศาสตร์ได้ภายในเวลา 4 ปี หลังจากนั้นก็สอบเนติบัณฑิตไทยได้ และสอบชิงทุนของธนาคารแห่งประเทศไทยไปศึกษาต่อทางด้านเนติบัณฑิตอังกฤษ ที่สถาบันเนติบัณฑิตอังกฤษ ลินคอล์น อินน์ ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่เริ่มเรียนทางด้านกฎหมายทำให้ผมต้องอ่านหนังสือเยอะมาก ทักษะหนึ่งที่ได้จากเซนต์คาเบรียลคือเรื่องการท่องจำ เพราะตอนเด็กบราเดอร์กับมาสเตอร์จะให้ท่องบทเรียนต่างๆ เมื่อท่องมากๆ ก็ทำให้เรามีความจำที่แม่นยำ สามารถจับประเด็น และจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่”

ตลอดจนทักษะภาษาอังกฤษที่ได้จากเซนต์คาเบรียลนั้น มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ผมสามารถสอบชิงทุนได้ โดยในการสอบจะใช้เพียง 2 วิชาหลัก คือ กฎหมายและภาษาอังกฤษ ซึ่งในตอนที่เรียนธรรมศาสตร์ผมแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลย เนื่องจากเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก แต่ความรู้ที่ผมเก็บตกมาจากเซนต์คาเบรียล ได้ฟังบ้าง อ่านบ้าง ส่งผลให้ภาษาอังกฤษที่แข็งแรง และสอบได้คะแนนในเกณฑ์ที่เขาต้องการ อีกทั้งการเรียนเนติบัณฑิตอังกฤษนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอ่านหนังสือเล่มหนาๆ แค่กฎหมายอาญาอย่างเดียวก็ประมาณ 3-4 เล่ม แต่ด้วยพื้นฐานที่มีโดยเฉพาะเรื่องของแกรมม่า ทำให้การเรียนของผมไม่มีปัญหาแต่อย่างใดและสอบผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดี

เซนต์คาเบรียล เก่งทั้งเรื่องการเรียน และกีฬา

ในส่วนของการทำงานนั้นคุณเสรีได้เริ่มต้นทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีความก้าวหน้าตามลำดับจนได้รับตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย ก่อนจะออกมาทำงานในภาคเอกชนโดยได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจนครบวาระ 4 ปี อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการคลังให้กับ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร อีกด้วย

หลักในการทำงานของผมคือ Honesty และ Efficiency ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเราทำอะไรให้ถูกต้องปัญหาต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น และการดำเนินงานเป็นขั้นเป็นตอน ตลอดจนการคิดอย่างเป็นระบบจะช่วยให้การทำงานนั้นเกิดประสิทธิผลและประสบความสำเร็จ ซึ่งสองหลักการนี้ก็ได้มาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ที่ปลูกฝังให้เราเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ ตลอดจนพื้นฐานทางการศึกษาที่ดีก็ส่งผลให้เรามี Efficiency ทั้งในการทำงานและการดำเนินชีวิต

นอกจากจะประสบความสำเร็จทางด้านการทำงานแล้วนั้น ในบทบาทหนึ่งถ้าจะเรียกว่าเป็นนักกีฬาอาวุโสคงไม่ผิดนัก กับการคว้าแชมป์โลกจากการแข่งขันแบดมินตันอาวุโส เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา “ก่อนหน้านี้เมื่อสมัยหนุ่มๆ ผมเคยเป็นนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติ ระหว่างที่เรียนธรรมศาสตร์ก็ยังเล่นอยู่ แต่เมื่อต้องเรียนและต้องเล่นไปพร้อมกันผมรู้สึกว่าทำได้ไม่ค่อยดีนัก จึงเลิกเล่นแล้วหันมาทุ่มเทให้กับการเรียน”

แต่เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ไปตรวจสุขภาพ แล้วพบว่าค่าต่างๆ ในร่างกายไม่ค่อยดีนัก ไม่ว่าจะเป็นคอเลสเตอรอล ยูริก น้ำตาล แม้กระทั่งความดัน คุณหมอจะให้ยามาทานแต่ผมรู้สึกว่าการทานยาไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง จึงขอคุณหมอมาปรับเรื่องการทานและออกกำลังกาย ตรงนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมกลับมาเล่นแบดมินตันอีกครั้ง โดยตั้งใจจะเล่นเพื่อสุขภาพ แต่มีคนมาชักชวนให้ลองลงแข่ง พอเล่นไปเรื่อยๆ ฝีมือในวัยหนุ่มก็กลับมา อีกทั้งยังฝึกฝนปรับปรุงพัฒนาในการเล่นให้มีความก้าวหน้าอยู่เสมอ จนตอนนี้ผมได้แชมป์โลก 6 เหรียญทอง ตรงนี้ก็อยากฝากไว้ว่าแม้ว่าเราจะเรียนหรือทำงานหนักนั้น ก็ควรจะแบ่งเวลาให้กับการออกกำลังด้วย”

และสุดท้ายในโอกาสครบรอบ 100 ปีของโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ผมขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่โรงเรียนได้ผ่านอุปสรรคมากมาย และสร้างบุคลากรที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนมีหลักสูตรการศึกษาที่อยู่ในระดับแนวหน้ามาโดยตลอดทั้งเรื่องเรียน เรื่องกีฬา และเรื่องของภาษา อยากฝากถึงรุ่นน้องและหลานๆ ว่านอกจากความรู้ที่ได้จากโรงเรียนแล้วนั้น องค์ประกอบและทักษะอื่นๆ ที่โรงเรียนได้อบรมปลูกฝังล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์อย่างมากในการดำเนินชีวิตของเรา