แนะนำตัวเองคร่าวๆ
คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รวมถึงประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ประเทศอังกฤษ แชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2015-2016 และประธานสโมสรฟุตบอล โอเอช ลูเวิน ประเทศเบลเยี่ยม
เข้าศึกษาชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 เมื่อ พ.ศ 2535 (เลขประจำตัว ซ.ค.23771) ที่ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล จนถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6 (รุ่น 83) และสำเรีจการศึกษา มัธยมศึกษาปีที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2546
เล่าความรู้สึก, ความประทับใจ, ความทรงจำดีๆ ที่มีต่อโรงเรียน
ผมจำได้ว่าช่วงที่ต้องเข้าชั้นประถมศึกษาคุณแม่พาไปดูหลายๆ โรงเรียน และในวันแรกที่ผมเดินเข้าไปในโรงเรียนเซนต์คาเบรียลกับคุณแม่ สิ่งที่สะดุดตา คือ “สนามฟุตบอลสีเขียว”
วันนั้นผมจำได้ว่าไปดูอยู่หลายโรงเรียน แต่พอกลับมาถึงบ้าน ก็ตัดสินใจบอกกับคุณแม่ทันทีว่าเลือก โรงเรียนเซนต์คาเบรียล จากสิ่งที่สะดุดตา จนเกิดเป็นแรงจูงใจ “สนามฟุตบอลสวย” และเมื่อได้เข้าไปศึกษาจริง สิ่งหนึ่งที่ทำให้ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกๆ คือ College Day กิจกรรมที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง ในทุกๆ ปี เมื่อโตขึ้น เริ่มมีเพื่อนเยอะขึ้น ยิ่งทำให้ผมรู้เลยว่า เราเลือกไม่ผิด สังคมของเซนต์คาเบรียลนั้นแตกต่าง มีความรักกันอย่างเหนียวแน่นและช่วยเหลือกัน ถึงแม้ในบางครั้งจะมีทั้งเรื่องที่ผิดและถูก แต่ความเป็นเพื่อนก็ทำให้เราเข้าใจให้อภัยกัน
เมื่อเริ่มเข้าชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ผมได้มีโอกาสติดทีมฟุตบอลโรงเรียน ซึ่งทำให้ได้สนิทกับรุ่นพี่และรุ่นน้องมากขึ้น ความรัก ความผูกพันที่มีกับโรงเรียนก็เพิ่มมากขึ้น และด้วยความชอบในกีฬาฟุตบอล ทำให้ผมฝึกฝนตัวเอง จนได้เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลทีมโรงเรียน จำได้ว่าวันที่ได้สวมชุดนักกีฬาตัวเทนโรงเรียนไปแข่งขัน ผมรู้สึกภูมิใจมาก แม้ว่าผมจะไม่ได้เก่งที่สุดในระดับโรงเรียนด้วยกัน แต่ความสนุกในการเก็บตัวและการได้ร่วมแข่งขันก็นับเป็นประสบการณ์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้จริงๆ เพราะทำให้ได้เรียนรู้จากประโยคหนึ่งที่ มาสเตอร์ นิกร อวิรุทธ์ไพบูลย์ ได้กล่าวไว้ในห้องพละก่อนที่พวกเราจะออกไปแข่งกับทีมที่ทุกคนรู้ว่าเป็นแชมป์เก่าและแข็งแกร่งกว่าทีมเรามาก มาสเตอร์กล่าวว่า “นักบอลทีมตรงข้ามมี 11 คน เราก็มี 11 คน 22 ขาเหมือนกัน ก่อนลงสนามเขาเก่งกว่าเรา แต่พอลงไปแล้ว ทุกอย่างเริ่มจาก 0-0 เราเท่ากัน เหลือแต่เราจะสู้แค่ไหน เราเป็นรอง ถ้าเราเสมอคือชนะ ถ้าเราชนะคือปฏิหาริย์ ถ้าแพ้คือเสมอตัว ดังนั้น ลงไปทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” มาสเตอร์นิกร ไม่ได้กดดันอะไร แต่ทำให้เราสู้ เสียงนั้นก้องในหู ทำให้เราสู้ และยังจำ นำมาใช้ถึงทุกวันนี้
พอถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ชีวิตสนุกยิ่งขึ้นไปอีก เพราะมีเพื่อนมากขึ้น และมีกิจกรรมที่ต้องทำมากขึ้น อีกทั้งได้รับตำแหน่งรองประธานนักเรียน และประธานสายน้ำเงิน ผมขอบคุณ คุณจิตภัทร (เต๋อ) ที่เลือกผมเป็นรองประธาน ช่วงนั้นเราอาจไม่ได้สนิทกันมาก แต่เต๋อก็เลือกผม อาจจะด้วยสาเหตุว่ามีเพื่อนเยอะหรือด้วยอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งผมขอบคุณเต๋อมากนะครับ ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ระบบการทำงานและวิธีการบริหารจัดการอำนาจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างถูกวิธี อีกทั้งยังได้มีโอกาสหารือ เรียนรู้จากครูและมาสเตอร์มากขึ้น ในปีสุดท้ายกับการจัดงาน College Day ผมในฐานะรองประธานรุ่น และดูแลเรื่องกีฬารวมถึงกิจกรรมในรุ่น จึงได้ขอความร่วมมือจากทุกสายทำ Stand ให้เป็นรูปตึก 7 ตึก ของโรงเรียน เพื่อส่งข้อความให้น้องๆ และบุคลภายนอกได้เห็นว่า College Day คือ การรวมพลังกันของนักเรียน ที่ไม่ใช่มาแข่งขันกันเพื่อเอาเป็นเอาตาย เรารักกัน แต่เมื่อมีการแข่งขันเราก็เต็มที่ สุดท้ายกิจกรรมที่จัดขึ้นก็ผ่านพ้นไปด้วยดี มีทั้งความสนุก ความรัก ความบ้าบอ และท้ายที่สุดเราได้พิสูจน์ว่าเลือดน้ำเงินขาวได้เต็มเปี่ยมอยู่ในตัวของเราทุกคน
คิดว่าเซนต์คาเบรียลมีผลอย่างไรที่ทำให้เราประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้
เซนต์คาเบรียล เป็นสถานที่ที่ให้ทั้งประสบการณ์ชีวิตและความรู้ ซึ่งผมได้นำมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน รวมถึงการใช้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องฟุตบอลและความสามัคคี
อยากฝากอะไรถึงโรงเรียนหรือรุ่นน้องในโอกาสครบรอบ 100 ปี เซนต์คาเบรียล
ฝากถึงน้อง ๆ รุ่นต่อไปว่า อยากให้ใส่เครื่องแบบของโรงเรียนแล้วพูดได้อย่างเต็มปากว่าเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลด้วยความภาคภูมิใจ ประวัติศาสตร์ คือ 100 ปี ที่รุ่นพี่สร้างขึ้นมา แต่ขึ้นอยู่กับรุ่นน้องๆ ว่าจะเขียนประวัติศาสตร์ของโรงเรียนต่อไปอย่างไร ฝากไว้ในมือของน้องๆ ทุกคนด้วยครับ