ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ถือเป็นศิษย์เก่าอีกท่านหนึ่งจากรั้วโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ซึ่งได้ทำงานให้กับประเทศชาติและในระดับโลก เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญในด้านต่างๆ มากมายทั้งในแง่ของนักวิชาการและการเมือง ซึ่งท่านให้โอกาสมาพูดคุยกับเราเนื่องในวาระครบรอบ 100 ปีเซนต์คาเบรียล ถึงจุดเริ่มต้น ความประทับใจ และสิ่งที่อยากจะฝากถึงโรงเรียน โดยเฉพาะในเรื่องของการศึกษา
“ผมเข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลตั้งแต่อยู่ชั้น ป.1 จนกระทั่งจบการศึกษาชั้น ม.6 หลังจากนั้นได้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมเป็นเวลา 2 ปี ก่อนจะไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ตำแหน่งปัจจุบันเป็นประธานกิตติมศักดิ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด เป็น Founding member ของ The Asia New Zealand Foundation ซึ่งเป็นมูลนิธิที่สำคัญของนิวซีแลนด์ ให้นโยบายเรื่องต่างประเทศของนิวซีแลนด์ที่เกี่ยวกับเอเชีย เรื่องการลงทุน การค้าขาย ศิลปวัฒนธรรม การศึกษา ถือว่าได้เป็นกรรมการที่ยาวที่สุดกว่า 20 ปีมาแล้ว และสำหรับผมที่ถือว่าสำคัญมากในตอนนี้คือการทำงานให้กับประเทศ เป็นกรรมการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 และเป็นที่ปรึกษาของสำนักงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งทะเลตะวันออก ECC : Eastern Economic Corridor : EEC รวมถึงการทำงานที่ UN ซึ่งได้เชิญผมให้ไปร่วมงานมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน” ดร.ศุภชัย เริ่มต้นกล่าวแนะนำตัวเอง
ในส่วนของความประทับใจและสิ่งที่ได้จากโรงเรียนนั้น ดร.ศุภชัย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความประทับใจในช่วงที่เรียนอยู่เซนต์คาเบรียลมีอยู่หลายเรื่องด้วยกัน เรื่องของระเบียบวินัยที่เข้มงวดมาก ส่วนการบ้านนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยนะครับ ยิ่งกว่าเพียบ (อมยิ้ม) ผมจำได้ว่าสมัยที่ผมเรียน 3 ทุ่มยังนั่งทำการบ้านอยู่เลย เพราะถ้าวันรุ่งขึ้นส่งการบ้านไม่ครบจะถูกทำโทษ ซึ่งผมคิดว่าวิธีการสอนให้เด็กมีวินัยเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะทำให้รู้สึกว่าการปฏิบัติตามกฎระเบียบนั้นสำคัญ
“นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแบ่งเวลาและใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ หรือคำขวัญของโรงเรียน LABOR OMNIA VINCIT การทำงานชนะทุกอย่าง เป็นสิ่งที่ผมเชื่อมาตลอด จะบอกว่าผมเป็นคนขยันก็ไม่เชิง แต่ ถ้าอะไรมีความสำคัญที่ต้องศึกษาก็จำตั้งใจทำอย่างไม่ลดละจนกระทั่งสำเร็จ เป็นลักษณะนิสัยที่ได้จากการทำการบ้านมากมาย แต่ในปัจจุบันความคิดเห็นส่วนใหญ่อาจจะเปลี่ยนไปว่าไม่ควรให้การบ้านมากนัก ซึ่งผมคิดว่าถ้าไม่ให้การบ้าน เราอาจจะต้องหาอะไรให้เด็กได้ทำได้คิดเป็นกิจกรรมหลังเลิกเรียนเพิ่มเติม”
บราเดอร์และมาสเตอร์หลายท่านที่อยู่ในความทรงจำของ ดร.ศุภชัย “ในช่วง ป.1-2 ผมมีมาสเตอร์ที่ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจที่จะตั้งใจเรียนแต่จำชื่อท่านไม่ได้แล้ว คือท่านบอกว่าถ้าเรียนดีจะได้รางวัล เมื่อผมสอบได้ที่ 1 ของชั้น ท่านได้ให้รางวัลเป็นเปียโนเล็กๆ ที่เปิดมาแล้วมีเสียง ทุกวันนี้ผมยังเก็บไว้ และอีกครั้งหนึ่งผมได้เป็นตุ๊กตาลิงตีฉาบ ซึ่งมาทราบทีหลังว่าโรงเรียนที่ทำตุ๊กตาตัวนั้นเป็นโรงงานที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลกอยู่ที่ประเทศเยอรมัน และมีคนชื่นชอบสะสมเป็นคอลเล็คชั่น ในช่วงหลังที่ผมมีโอกาสได้ไปทำงานที่เจนีวา ก็พยายามจะสะสมเจ้าตุ๊กตาลิงตัวอื่นๆ เหมือนกัน สิ่งเหล่านี้สมัยเด็กจึงเป็นเหมือนแรงบันดาลใจ และสร้างความรู้สึกที่ภูมิใจที่เรียนดีจนได้รางวัล สำหรับบราเดอร์ท่านอื่นๆ ที่ผมยังพอจำได้อย่าง บราเดอร์ซีเรล ที่ท่านสอนให้ผมเข้าใจลึกซึ้งในการเขียน Assay คือสมัยก่อนเด็กก็เรียนท่องจำ แต่ท่านมีวิธีการสอนคือให้หัวข้อเรื่อง แล้วให้ไปเขียน Assay แล้วออกมาพูดหน้าชั้น บางวันให้พูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังมีมาสเตอร์ท่านอื่นๆ ที่สอนให้ผมมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดี ซึ่งมีส่วนสำคัญมากในทุกวันนี้
“ไม่เพียงแต่ความรู้ทางวิชาการที่โรงเรียนมีความเข้มข้นมาก ทั้งวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ซึ่งมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่ค่อนข้างทันสมัย แต่นอกเหนือจากการเรียนแล้วที่เซนต์คาเบรียลยังปลูกฝังเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ผมจำได้ว่าบราเดอร์จอห์น แมรี ท่านสนิทกับคุณพ่อคุณแม่ของผม และเคยบอกในช่วงที่ผมทำงานด้านการเมืองในตอนแรกว่า จำได้ไหมสิ่งที่บราเดอร์เคยสอนว่าเราต้องเป็นคนดีมีคุณธรรม ตรงนี้ผมคิดว่าถึงแม้จะเป็นโรงเรียนที่มีศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลัก ผมคิดว่าถึงแม้จะเป็นโรงเรียนที่มีศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลัก เราเป็นพุทธ แต่ศาสนาก็คือศาสนาที่สอนให้คนรู้จักคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต ความรักเพื่อนด้วยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น หรือจะเป็นมาสเตอร์กอสร่าง ที่ท่านก็ดุมากในตอนนั้น แต่ก็เป็นเพราะอยากให้เราได้ดี จนตอนหลังท่านก็เหมือนเป็นเพื่อนกับพวกเรา เพราะท่านดูไม่แก่ไปเลยครับ”
ซึ่งทั้งหมดที่ ดร.ศุภชัย ได้จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียลนั้น ล้วนแล้วแต่มีผลที่ทำให้ท่านประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางวิชาการ การสอนให้ทำงานหนัก ต้องเป็นทั้งคนเก่งและคนดี มีคุณธรรม นอกจากนี้ยังปลูกฝังให้เป็นคนที่มีสปิริต รู้จักการแพ้การชนะ ตลอดจนรู้รักสามัคคี มีความเป็นพี่น้อง และทำประโยชน์ให้สังคมส่วนรวม
และในโอกาสครบรอบ 100 ปีของโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ดร.ศุภชัย ได้ฝากทิ้งท้ายว่า “เซนต์คาเบรียลถือเป็นสถาบันการศึกษาที่ทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจและเป็นที่ยอมรับในสังคม สิ่งที่ผมอยากจะฝาก ในฐานะที่ผมกำลังทำงานเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติในเรื่องการศึกษา คือเรื่องศักยภาพของคุณครู ทุกวันนี้สังคมมีการเปลี่ยนแปลงอยางรวดเร็ว ครูอาจจะไม่ได้สอนเพียงอย่างเดียว แต่ละต้องเป็นโค้ชที่ดีของนักเรียนในการแนะนำสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้อง ตลอดจนเป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างที่ดี ถัดไปคือเรื่องของการเรียนที่อยากให้ลดช่องว่างระหว่างเด็กที่เรียนดีและเรียนไมดี เพื่อให้มีผลการศึกษาที่ดีขึ้น เด็กเก่งได้ช่วยเหลือเด็กที่เรียนไม่เก่ง
ในส่วนของการบริหารโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนต่างๆ มักจะมีการแข่งขันกันสูง พอจะไปเป็นไปได้ไหมถ้าอยากให้โรงเรียนได้ช่วยเหลือโรงเรียนอื่นที่เขาด้อยกว่าเราหรืออยู่ในชนบท อาจจะเป็นเรื่องของการแนะนำเรื่องหลักสูตรว่าจะสอนอย่างไร และสุดท้ายคือเรื่องการวัดผล ผมไม่อยากให้มีการวัดผลของเด็กว่าเป็นคนเก่งในด้านวิชาการอย่างเดียว และอยากให้ประเมินในแง่ทักษะอื่นๆ ที่ว่าเมื่อจบไปแล้วนั้นเด็กมีโอกาสประกอบอาชีพได้มากน้อยแค่ไหน
รวมไปถึงหลักสูตรการเรียนสอน นอกจากสอนให้เด็กอ่านออกเขียนได้เป็นพื้นฐานแล้ว อยากให้เน้นเรื่องของการอ่านให้เป็น คืออ่านแล้วต้องจับใจความได้ สามารถนำไปคิดต่อยอด และประยุกต์ใช้ในเรื่องต่างๆ ได้ เรื่องของ AI ที่สามารถนำมาประยุกต์กับการเรียน นอกจากความรู้แล้วยังควรปลูกฝังเรื่องความสามัคคี เคารพซึ่งกันและกัน ตลอดจนการมีจิตสาธารณะที่คิดถึงส่วนรวม โดยคิดว่าแค่ว่าเราเป็นคนไทย แต่เป็นคนอาเซียน และเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ด้วย”