พล.ต.อ.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์

ด้วยคุณพ่อตั้งใจว่าอยากให้ในครอบครัวมีลูกสักคนหนึ่งเป็นหมอ เพื่อจะได้ดูแลสมาชิกคนอื่นๆ ได้ พล...นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ ซึ่งเป็นลูกชายคนโต จึงตัดสินใจเลือกเรียนต่อแพทยศาสตร์บัณฑิต โดยมีความเชี่ยวชาญทางด้านสูติศาสตร์ แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ได้อยากเรียนตั้งแต่แรก แต่เมื่อได้ลองศึกษาและทำงานด้วยความตั้งใจ พล...นพ.จงเจตน์ ก็มีความรักในวิชาชีพ จนเกิดเป็นศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากเจตนินขึ้นอย่างทุกวันนี้

เซนต์คาเบรียลถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต

ผมมาเข้าเรียนที่เซนต์คาเบรียลในช่วง ..1-..3 ก่อนหน้านั้นผมเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา จนถึงชั้น .7 เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนต่างจังหวัด แต่พอดีว่าตอนที่เราจบ .7 คุณพ่อย้ายมาอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ ผมจึงได้มาเรียนต่อที่นี่ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเลย จากเด็กต่างจังหวัดต้องอยู่ไกลจากคุณพ่อคุณแม่ทำให้รู้สึกเหงา จึงไม่ค่อยสนใจการเรียนเท่าไรนัก เมื่อย้ายมาเซนต์คาเบรียลก็ได้ใกล้ชิดครอบครัวมากขึ้น อีกทั้งยังมีบราเดอร์ มาสเตอร์คอยเอาใจใส่เรา ไปเรียนด้วยความสนุกสนาน เพราะมีเพื่อนที่ดีคอยช่วยเหลือกัน จึงทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป สนใจการเรียนมากขึ้น โดยสอบได้ที่ 1 เป็นประจำ และได้รับเหรียญจากบราเดอร์มาร์ติน เมื่อผลการเรียนดีขึ้นก็เป็นพื้นฐานที่ทำให้ผมมีโอกาสในการสอบเข้าคณะแพทย์ได้

แม้ว่าผมจะเรียนที่เซนต์คาเบรียลเพียงแค่ 3 ปี แต่บอกได้เลยว่าเป็นช่วงชีวิตที่ประทับใจมากที่สุด โดยไม่รู้จะอธิบายอย่างไร กล่าวคือผมมีเพื่อนที่รักและสนิทกัน ทุกวันนี้ยังไปเที่ยว นัดทานข้าว และเลี้ยงฉลองกันเป็นประจำ เซนต์คาเบรียลให้รู้สึกเสมือนเป็นครอบครัว โดยมีทั้งมาสเตอร์ที่คอยดูแลอบรมสั่งสอนเราเหมือนเป็นลูกเป็นหลาน อีกทั้งยังมีเพื่อนพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกัน

ความเป็นเซนต์คาเบรียลนั้นดีที่สุด

ผมมองว่าถ้าเราแยกแต่ละส่วนออกมาทั้งนักเรียน ครูอาจารย์ ตลอดจนหลักสูตรการเรียนการสอน คงไม่สามารถพูดได้ว่าสิ่งไหนมีความโดดเด่นที่สุด แต่ถ้ามองเป็นภาพรวมแล้วผมว่าเซนต์คาเบรียลดีที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่ดีต้องประกอบไปด้วย เชฟที่คอยปรุงอาหาร ต้องมีวัตถุดิบที่สดใหม่ได้คุณภาพ บรรยากาศของร้านดี ราคาอาหารมีความสมเหตุสมผล ซึ่งถ้าขาดอย่างหนึ่งอย่างใดหรือมีอะไรดีที่สุดเพียงอย่างเดียว จะเป็นร้านอาหารที่ดีและสมบูรณ์ได้อย่างไร ผมเปรียบให้เห็นว่าเซนต์คาเบรียลก็เป็นเช่นนั้น

เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าศิษย์เก่าที่จบจากเซนต์คาเบรียลไปล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จ โดยไม่ใช่เด็กที่เรียนเก่งเท่านั้นถึงจะประสบความสำเร็จ บางโรงเรียนมีนักเรียนที่เก่งระดับดีเลิศ แต่เมื่อต้องออกมาทำงานและใช้ชีวิตในสังคมกลับสู้เด็กเซนต์คาเบรียลไม่ได้ นอกจากเรื่อง Connection ความเป็นพี่เป็นน้องที่ทุกคนคอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โรงเรียนของเราไม่ได้สอนให้เด็กเป็นหนอนหนังสือ แต่ยังมีเรื่องของการทำกิจกรรม การเล่นกีฬา และทักษะอื่นๆ ที่โรงเรียนปลูกฝัง จึงทำให้โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและการใช้ชีวิตนั้นมีมาก อีกทั้งยังมีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ของต่างประเทศว่า คนที่เรียนแล้วจะจบประสบความสำเร็จมากที่สุด มักจะไม่ใช่คนที่เรียนได้อันดับ 1-5 แต่จะเป็นอันดับ 6-10 คือเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เขาไม่ได้เรียนอย่างเดียว อาจจะมีความสนใจในการทำกิจกรรม เล่นกีฬา เมื่อได้ออกไปใช้ชีวิต ปะสบการณ์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในอนาคตมากกว่าการเรียนเก่งอย่างเดียว

โรงเรียนเซนต์คาเบรียลมี raw material ที่ดี ซึ่งก็คือ นักเรียนที่ดี

เลือกศึกษาต่อทางด้านแพทยศาสตร์

จริงๆ ผมไม่ได้อยากเป็นหมอ แต่ชอบเกี่ยวกับด้านวิศวกรรมกับเรื่องไฟแนนซ์มากกว่า แต่ด้วยเป็นลูกชายคนโตของครอบครัว และคุณพ่ออยากให้มีหมอสักคนไว้คอยดูแลสมาชิกในครอบครัว ผมจึงตัดสินใจเลือกเรียนหมอ ซึ่งก็ถือเป็นโชคดี โดยหลังจากนั้นได้จับพลัดจับผลูมาเรียนทางด้านสูติแพทย์อีก ชีวิตผมนี่แปลกนะครับ ตอนที่เรียนจบผมอยากเป็นหมออายุรกรรม เพราะรู้สึกว่าเป็นหมอที่มีความเป็นหมอมากที่สุด รู้เรื่องโรคต่างๆ แต่หมอสูติเป็นเรื่องเฉพาะทาง อีกทั้งยังรักษาคนได้เพียงครึ่งโลก เพราะอีกครึ่งหนึ่งเป็นผู้ชาย

ในตอนแรกนั้นเราอาจจะไม่รู้ตัวเองว่ามีความชอบทางด้านนี้ แต่เมื่อได้ศึกษาและทำงานด้วยความตั้งใจ ก็ทำให้รู้สึกรักในวิชาชีพ สำหรับจุดเริ่มต้นของศูนย์การรักษาผู้มีบุตรยากเจตนิน เกิดจากเมื่อได้ทำงานไปสักระยะหนึ่ง ในสมัยนั้นเรื่องการมีลูกยากบางคนคิดว่าไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่สำหรับคนที่ไม่มีลูกจริงๆ นั้นเป็นปัญหาที่อาจจะส่งผลกระทบถึงความเป็นครอบครัว บางครั้งอาจจะต้องเลิกรากันไปหรือต้องหาสามีใหม่ ภรรยาใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เมื่อมีเทคโนโลยีเกี่ยวกับ IVF ผมจึงนำมาช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ โดยถือเป็นการรักษาคนมีลูกยากด้วยวิธีทำกิฟต์เป็นรายแรกของประเทศไทย และประสบความสำเร็จจนเทคโนโลยีนี้แพร่หลายอย่างรวดเร็ว

ซึ่งย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ในช่วงที่เรียนจบมาใหม่ๆ เป็นช่วงที่โรงพยาบาลตำรวจยังไม่มีแผนกสูติเวช เนื่องด้วยเป็นโรคพยาบาลที่เน้นการรักษาคนไข้ศัลยกรรม กระดูก และอุบัติเหตุ แต่เขากำลังจะเริ่มแผนกสูติ ผมคิดว่าการที่ได้ไปทำงานในโรงพยาบาลที่กำลังจะเปิดแผนกใหม่น่าจะเป็นความท้าทาย จึงเข้าไปรับราชการและมีความเจริญเติบโตในตำแหน่งหน้าที่มาโดยตลอด จนได้เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล เป็นแพทย์ใหญ่คือเจ้ากรมแพทย์ตำรวจ และตำแหน่งสุดท้ายคือเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฟังดูแล้วอาจจะไม่เกี่ยวกับการเป็นหมอ แต่ว่านั่นคือระบบราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ในโอกาสครบรอบ 100 ปี

ตอนนี้เราเข้าสู่ยุคที่ทุกคนสามารถหาความรู้ได้อย่างเท่าเทียม โดยไม่จำเป็นต้องไปเรียนแล้วก็ได้ การเรียนจึงไม่ใช่เรื่องของตัวหนังสือที่จะต้องไปที่โรงเรียนแล้วถึงจะรู้ แค่เราคลิกหาในอินเตอร์เน็ตทุกอย่างก็มีให้อ่าน เพราะฉะนั้นครูอาจารย์จะต้องเปลี่ยนวีการสอนที่ไม่เพียงแต่เน้นเรื่องของ Knowledge แต่สิ่งที่ต้องเพิ่มเติมคือเรื่องของ Imagination และ Creativity

สุดท้ายผมอยากฝากถึงนักเรียนเซนต์คาเบรียลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรุ่นน้อง รุ่นลูก รุ่นหลาน อยากให้ทุกคนภูมิใจที่มีโอกาสได้มาเรียนที่เซนต์คาเบรียล และรักษาความเป็นพี่น้องแบบเซนต์คาเบรียลให้สืบเนื่องต่อไป เวลามีคนถามว่าจบมาจากไหน เราก็สามารถตอบได้อย่างภูมิใจว่าจบเซนต์คาเบรียล บางครั้งไม่ถามเราก็อยากบอก ผมว่ามีโรงเรียนไม่กี่แห่งในประเทศหรอกครับที่ทำได้อย่างนี้ และโรงเรียนเซนต์คาเบรียลก็เป็นหนึ่งในนั้น