ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา

ดร.จิรายุ อิศรางกูร อยุธยา ท่านได้ทำงานและทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างมาก โดยเริ่มต้นทำงานในด้านเศรษฐศาสตร์ และเข้าสู่การทำงานด้านการเมืองเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีประจำสำนักนายก หลังจากนั้นได้รับโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นองคมนตรี

ย้อนกลับไปในช่วงที่ท่านได้ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลนั้น ท่านมีความประทับใจในด้านต่างๆ ที่ได้เริ่มต้นเล่าให้เราฟังว่าผมเข้าเรียนตั้งแต่ชั้นมูล เมื่อปี ..5492 จำได้ว่าในตอนนั้นจะต้องมีการปรับตัวมากอยู่เหมือนกัน เนื่องจากผมมาเข้าเรียนตอนอายุมากประมาณ 7 ขวบ อีกอย่างหนึ่งคือไม่รู้ภาษาไทยเลย ถือว่าเริ่มต้นช้าเด็กคนอื่นเขาเริ่มเรียนกันตั้งแต่อายุยังน้อย ชั้นมูลก็เปรียบเสมือนโรงเรียนอนุบาลในสมัยนี้

หลังจากที่ผ่านการปรับตัวมาแล้ว โชคดีที่ค่อยๆ เรียนรู้จนมีความเข้าใจ และสามารถเรียน Pass ชั้นจนทันเพื่อนๆ แต่การสอบครั้งแรกนั้นได้ 50% พอดีเลย แต่การเป็นเด็กนั้นดีอย่างหนึ่งคือสามารถเรียนรู้ได้เร็ว อีกทั้งการที่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ดี มีคุณครูที่ดีช่วยสอนทำให้ผมเรียนตามทันเพื่อน ซึ่งผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลประมาณ 6-7 ปี ก็ต้องย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศ เนื่องจากคุณพ่อต้องไปรับราชการประจำอยู่ที่ต่างประเทศ

มุมมองของท่านเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอนของเซนต์คาเบรียลผมยังจำได้อยู่ว่าพื้นฐานวิชาเลขคณิตของเซนต์คาเบรียลนั้นค่อนข้างดีกว่า เข้มข้นกว่าตอนไปเรียนที่ต่างประเทศ อีกทั้งภาษาอังกฤษพื้นฐานก็สามารถทำให้ผมไปศึกษาต่อได้อย่างไม่ติดขัด แต่หลักสูตรของต่างประเทศอาจจะเข้มข้นกว่าเนื่องจากเป็นภาษาที่ 1 ของเขา

เมื่อผมเริ่มต้นทำงานรับราชการ ได้ทำงานหลายอย่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานที่อยู่ในส่วนของภาครัฐมาโดยตลอด และนึกถึงโรงเรียนอยู่เสมอที่ทำให้ผมมีพื้นฐานที่ดี ซึ่งพื้นฐานการศึกษานั้นมีความสำคัญที่ส่งผลในการทำงานของเรา ทำให้มีคุณวุฒิที่จะสามารถทำงานได้ และเป็นพื้นฐานให้ได้เรียนรู้ต่อยอดก้าวหน้าต่อไปในอนาคต ซึ่งพื้นฐานนั้นประกอบไปด้วยความรู้ด้านวิชาการ และคุณธรรม

นอกจากนี้ยังมีความประทับใจในแง่มุมอื่นๆ ที่ท่านได้เล่าให้เราฟังเพิ่มเติมพอเรานึกย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่เป็นเด็กนั้น นอกเหนือจากเรียนการเรียนความรู้และคุณธรรมที่ได้มาจากครูบาอาจารย์ ก็ยังเรื่องเพื่อนๆ และการเล่นสนุก ยกตัวอย่างเช่น ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลตอนช่วงพักจะนำลูกเทนนิสเก่าๆ มาเตะเล่นกันกลางสนาม ถ้าเป็นเด็กตัวเล็กๆ ก็จะแอบๆ เล่นหน่อย แต่เด็กโตก็เล่นกันสนุกสนานเต็มที่ ถือเป็นความทรงจำเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราได้เรียนชีวิตเหมือนกันนะ ในแง่มุมที่ว่าความสุขไม่จำเป็นว่าจะต้องไปใช้เงินซื้ออะไรที่มีราคาแพง แค่ได้เล่นลูกเทนนิสเก่าๆ อยู่ในสนามเราก็มีความสุขได้

ท่านอธิการและมาสเตอร์เป็นผู้ทุ่มเทเพื่อการศึกษาและอบรมให้นักเรียนเป็นคนดี

ในส่วนของบราเดอร์และมาสเตอร์ ท่านคือผู้มีความรู้ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าสมัยนั้นท่านมีความรู้มากมายได้อย่างไร ซึ่งท่านได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับนักเรียน สอนให้รู้จักระเบียบวินัย ผมมีความประทับใจมาสเตอร์ในทุกระดับชั้นที่ได้เรียนกับท่าน อย่างท่านอธิการนั้นเรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่เสียสละอย่างแท้จริง แม้ว่าผมจะยังเป็นเด็กแต่จำได้ว่าท่านทุ่มเทให้กับการศึกษา และอบรมให้นักเรียนเป็นคนดี ทำให้เด็กเซนต์คาเบรียลที่จบไปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนดี อีกทั้งยังทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้มาก

ซึ่งผมอยากจะพูดถึงสัก 2 ท่าน คนแรกคือ ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ ตอนที่เรียนด้วยกันนั้นเขาเรียนเก่งมาก พื้นฐานของโรงเรียนเซนต์คาเบรียลได้ส่งเสริมให้เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นในระดับประเทศและระดับโลกเลยทีเดียว อีกท่านหนึ่งคือ ดร.วิชิต หล่อจีระชุณห์กุล เป็นผู้คิดค้นเกี่ยวกับด้านคอมพิวเตอร์ เป็นอาจารย์ที่ดีมากทั้งความรู้และคุณธรรมอย่างยอดเยี่ยม ได้รับรางวัลดีเด่นจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศาสตร์ ซึ่งทั้งสองท่านเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน จึงอยากฝากให้นักเรียนในปัจจุบันนั้นได้นำไปเป็นแบบอย่าง และควรอย่างยิ่งที่จะนึกถึงศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียลที่มีมากมายนัก เป็นเรื่องที่น่าดีใจและภูมิใจ ที่พื้นฐานของความสำเร็จนั้นล้วนแล้วแต่มาจากโรงเรียนทั้งสิ้น ทั้งยังทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติอีกด้วยท่านจิรายุ กล่าวทิ้งท้าย